คำถามเกี่ยวกับแบรนด์
ผลิตภัณฑ์ ตราอะยัม™ ถูกผลิตขึ้นภายใต้โรงงานที่ทันสมัย.
ผ่านการรองรับจากมาตรฐานอาหารสากลจากทั่วโลก รวมถึงผ่านการรับรอง 'มาตรฐานอาหารฮาลาล'.
HACCP MS 1480:2007: ระบบควบคุมป้องกันที่ดีและมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนในอาหาร.
ISO 9001:2008 QMS: ระบบการจัดการคุณภาพสินค้า เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่คงที่ และคงความสม่ำเสมอสูงสุดให้กับผู้บริโภค HALAL MS 1500:2009: มาตรฐานการรับรองอาหารฮาลาลจะถูกดูแลอย่างเข้มงวดโดยหน่วยงานมุสลิมกลาง JAKIM ประเทศมาเลเซีย รวมถึงการรับรองอาหารฮาลาลอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้ JAKIM.
ด้วยความใส่ใจทางสิ่งแวดล้อม ตรา อะยัม™ เชื่อว่าวัตถุดิบตั้งต้นทั้งหมดควรถูกใช้ในกระบวนการแปรรูป เพื่อจำกัดของเสีย ดังนั้นเราจึงมีการวางแผนการผลิต เพื่อลดขยะ และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะยาว.
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว: ทางโรงงานได้ดำเนินการแปรรูปมะพร้าวทั้งหมด (น้ำ, น้ำมัน, นม และครีม) ส่วนกะลามะพร้าว จะถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในเตาเผา เพื่อทดแทนการใช้พลังงานจากฟอสซิลตามปกติ ได้แก่ น้ำมันหรือก๊าซ.
ในส่วนของโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากปลา อะยัม ได้ใช้เครื่องจักรเฉพาะทางในการนำเศษเหลือจากปลามาผลิตเป็น โปรตีนปลาไฮโดรไลเซท (Fish Hydrolyzed Protein) สำหรับอุตสาหกรรมยา.
อะยัม ได้ทำการลดขนาดบรรจุภัณฑ์ และใช้วัสดุพื้นฐาน เช่น กระป๋อง, แก้ว หรือกระดาษ ซึ่งสามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100%.
คำถามเกี่ยวกับคุณภาพ
สินค้ากลุ่มปลาทูน่า: ส่วนผสมนั้นปราศจากกลูเตน โรงงานของเรามีหน่วยงานที่คอยควบคุม และป้องกันการปนเปื้อนของสารก่อภูมิแพ้อย่างเข้มงวด.
อะยัม ได้ทำการสุ่มตรวจสอบผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์จะไม่มีการปนเปื้อนของสารก่อภูมิแพ้ประเภทต่างๆ.
อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ทำการอ้างข้อมูลเหล่านี้ต่อสาธารณะ เนื่องจากยังไม่มีระบบรองรับการควบคุมสารก่อภูมิแพ้ และมาตรฐานการรับรองสินค้าปราศจากกลูเตน.
หลายปีที่ผ่านมา ตรา อะยัม™ ได้ดำเนินนโยบายความรับผิดชอบต่อการใช้น้ำมันปาล์ม ด้วยการแทนที่ด้วยน้ำมันพืชชนิดอื่น ที่มีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า ซึ่งมีผลิตภัณฑ์เพียงบางส่วนที่ยังคงใช้น้ำมันปาล์มอยู่ โรงงานของเราใช้น้ำมันปาล์มที่ผ่านการรับรองแบบยั่งยืนจากมาเลเซียฝั่งตะวันตกเท่านั้น.
ตรา อะยัม™ ใช้เฉพาะปลาทูน่าสายพันธุ์ที่ไม่ใกล้สูญพันธุ์ จากชีวมวลที่มีสมบูรณ์เท่านั้น (หมายรวมถึงนอกเขตที่มีการตกปลามากเกินไป).
สัตว์นักล่าทางทะเลขนาดใหญ่ เช่น ฉลาม, วาฬ, ปลาดาบ และปลาทูน่าสายพันธุ์ใหญ่บางชนิด อาจมีการปนเปื้อนของเมทิลเมอร์คิวรี เนื่องจากความเข้มข้นของปรอท จะถูกพบได้มากขึ้นในกลุ่มนักล่าชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหาร.
ตรา อะยัม™ คัดเลือกเฉพาะปลาขนาดเล็กจากทูน่าสองสายพันธุ์: สกิปแจ็ค และครีบเหลือง.
เนื่องจากปลาทูน่าที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก จะไม่มีการสะสมของปรอทได้ตามธรรมชาติเหมือนสัตว์นักล่าขนาดใหญ่.
เพื่อความสบายใจของผู้บริโภค ตรา อะยัม™ ได้ทำการส่งตรวจผลิตภัณฑ์จากปลาทูน่าทุกล็อตการผลิต เพื่อวิเคราะห์หาปริมาณปรอทในห้องปฏิบัติการอิสระ.
เพื่อให้แน่ใจว่าการผลิตปลาทูน่านั้น เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหารที่เข้มงวดระดับโลก.
โมโนโซเดียมกลูตาเมต นับเป็นสารปรุงแต่งรสอาหาร เพราะมีส่วนช่วยในการปรับสมดุล และเพิ่มการรับรู้รสชาติโดยรวม คุณสามารถพบได้ภายใต้สารปรุงแต่งอาหาร E621 แต่หากสูตรอาหารนั้นดีอยู่แล้ว รวมถึงส่วนผสมที่มีความสดใหม่ แล้วเราจะต้องใส่ผงชูรสไปเพื่ออะไร? อาหารกระป๋อง ตราอะยัม™ ขอรับประกัน และรับรองว่าจะไม่มีการใส่ผงชูรส เพื่อให้คุณได้ทานอาหารที่ดีที่สุดเท่านั้น.
คำถามเกี่ยวกับอาหารกระป๋อง
ตรา อะยัม™ ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดระดับโลก ครอบคลุม BPA ทำให้ผลิตภัณฑ์ ตรา อะยัม™ ทั้งหมดปลอดภัยต่อการบริโภค.
กระป๋องส่วนใหญ่จะมีวัสดุบุผิว เพื่อป้องกันไม่ให้โลหะสัมผัสกับอาหารในกระป๋อง เป็นเวลาหลายทศวรรษที่วัสดุบุผิวเหล่านี้ทำมาจากอีพ็อกซี่ ซึ่งมีส่วนประกอบของ BPA (Bisphenol A).
ตามกฎระเบียบที่เข้มงวดของโลก (คำสั่งของสหภาพยุโรป 2014/19/EC) ได้กำหนดว่าเราสามารถทานอาหารกระป๋องที่มีBPA ได้โดยปลอดภัย หากปริมาณการแพร่ (SML) ไม่เกิน 0.6 ppm หรือ (มก./กก.) ในอาหาร.
ห้องปฏิบัติการอิสระได้ทำการตรวจสอบและวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์อ้างอิง ตรา อะยัม™ มีผลว่าไม่พบการแพร่ของ BPA ไปยังอาหารแต่อย่างใด แม้อาหารกระป๋องนั้นๆจะหมดอายุแล้วก็ตาม.
ผลิตภัณฑ์บางประเภทที่มีส่วนประกอบและความเป็นกรดนั้น สามารถพบการแพร่ของ BPA ได้ แต่เราก็ได้ทำการตรวจวิเคราะห์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าดังกล่าวจะมีค่าการแพร่ที่ต่ำกว่า 0.6 ppm ตามข้อกำหนด.
ตรา อะยัม™ กำลังพยายามอย่างแข็งขันเพื่อปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์กระป๋องทั้งหมดเป็นกระป๋องที่ปราศจากสาร BPA.
ตรา อะยัม™ ได้ริเริ่มและตัดสินใจปรับเปลี่ยนนับแต่ปี ค.ศ. 2012 ในการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์จากกระป๋องทั้งหมด โดยใช้วัสดุบุผิวที่ไม่มีส่วนประกอบของสาร BPA หรือส่วนประกอบอื่นๆ ที่คล้ายคลึง เช่น BPF, BPS เพราะเหตุนี้ตรา อะยัม™ จึงกำหนดมาตรฐานที่สูงขึ้นในเรื่องนี้ให้เหนือกว่าความคาดหวังของผู้บริโภค.
ในระหว่างที่กำลังทำการแก้ไข วัสดุบุผิวทางเลือกอื่นๆที่ทางเราเลือกใช้ก็พบว่าไม่สามารถตรวจสอบพบสาร BPA ในสินค้าอะยัมเช่นกัน ตรา อะยัม™ ดำเนินการทดสอบวัสดุบุผิวทางเลือกอย่างครอบคลุมด้วยการวิเคราะห์อายุสินค้าหลังการบ่มอย่างทันท่วงที เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าเหล่านี้มีความปลอดภัยเพียงพอ เป็นเวลาหลายต่อหลายปีที่โรงงานผลิตกระป๋องต้องใช้เพื่อสร้างวัสดุบุผิวชนิดใหม่ เพื่อให้เราได้ทำการทดสอบ.
ตรา อะยัม™ ค่อยๆทำการปรับเปลี่ยนไปใช้กระป๋องที่มีวัสดุบุผิวปลอดสาร BPA โดยทันที เมื่อการทดสอบและการวิเคราะห์สามารถพิสูจน์ได้ว่า วัสดุบุผิวใหม่นั้นปลอดภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ในแต่ละประเภท.
ผลิตภัณฑ์สินค้ากลุ่มกะทิ ณ ปัจจุบัน ได้ถูกบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ปราศจากสาร BPA แล้ว สินค้ากลุ่มทูน่านั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนของการเปลี่ยนให้เสร็จสมบูรณ์ ส่วน ปลาซาร์ดีน, ปลาแมกเคอเรล และถั่วขาว นั้นถูกเปลี่ยนในปี ค.ศ. 2017.
ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างออกไป (เช่น ขวดแก้ว หรือ Tetra Pak) นั้นปลอดสาร BPA.
ผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋อง นั้นถูกทำให้สุกในกระป๋องอยู่แล้วตามกระบวนการผลิต ซึ่งหมายความว่าอาหารนั้นได้ถูกปรุงสุกภายใต้กระป๋องที่ปิดสนิท ทำให้สามารถรับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านการปรุงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถทำการอุ่น หรือใช้เป็นส่วนผสมในเมนูอาหารของคุณก็ได้เช่นกัน.
อาหารกระป๋องที่ยังไม่เปิด ควรเก็บไว้ในที่เย็นและแห้ง โดยสามารถอยู่ได้นานถึงสามปี เว้นแต่จะมีการระบุวันที่เหมาะแก่การบริโภคที่ดีที่สุด นั้นเร็วขึ้น.
ควรใช้ที่เปิดกระป๋องที่สะอาด และไม่เป็นสนิมช่วยในการเปิด หรือมองหากระป๋องแบบมีฝาดึง ควรเช็ดทำความสะอาดบริเวณฝาด้านบนทุกครั้ง ก่อนที่จะทำการเปิดฝา.
ห้ามเก็บอาหารในกระป๋องที่เปิดแล้วในตู้เย็น ควรเปลี่ยนถ่ายไปยังภาชนะที่สะอาดปลอดภัย และทำการเก็บในตู้เย็นทันที ทำให้อาหารสามารถอยู่ได้นานขึ้นอีก 4 วัน.
กระป๋องเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเก็บและถนอมอาหาร ช่วยในการรักษาเนื้อสัมผัส และรสชาติของอาหารไว้ได้นาน โดยไม่ต้องใส่สารกันบูด.
กระบวนการบรรจุกระป๋อง ถูกคิดค้นโดยพ่อครัวชาวฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1810 เพื่อใช้ฆ่าเชื้อ และคงให้อาหารอยู่ในสภาพเดิม เหมาะแก่การเก็บรักษาและจัดส่งไปยังต่างประเทศได้เป็นเวลานาน.
กระป๋องจะถูกปิดผนึกในสภาวะสูญญากาศ ภายใต้การควบคุมและถูกนำไปผ่านความร้อนที่อุณหภูมิสูง กระบวนการให้ความร้อนนี้จะทำการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและช่วยถนอมอาหาร.
ทำให้สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องใช้สารกันบูด.
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.mfca.org.my.